เอาใจคนที่กำลังมองหาอาหารลดความอ้วน ด้วยเมนูเต้าหู้ 6 สไตล์ อยากเฮลธ์ตี้หุ่นดีแต่ขี้เบื่อ ลองเมนูแคลอรีต่ำแบบนี้สักจานไหม ?
ถ้าเอ่ยถึงอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อเน้นไปทางการลดความอ้วน หลายคนอาจนึกถึงอาหารคลีน อาหารมังสวิรัติ หรืออาหารเจ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมจากเมนูเต้าหู้แข็ง หรือเมนูเต้าหู้ขาวอัดแน่นด้วยโปรตีน แถมราคาประหยัดอีกด้วย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 6 เมนูเต้าหู้ ได้แก่ ราดหน้าเต้าหู้น้ำแดง หลนเต้าหู้ยี้เจ เต้าหู้กับเห็ดหอมอบวุ้นเส้นเจ เต้าหู้ทรงเครื่องซอสมิโซะ ข้าวเกรียบปากหม้ออัญชันไส้เต้าหู้หมูสับ และลาบเต้าหู้ นอกจากอิ่มสบายท้องแล้วรู้หรือไม่ว่าเมนูเต้าหู้ลดความอ้วนได้ด้วยนะคะ
1. ลาบเต้าหู้
ถ้าหากกินลาบหมู ลาบไก่ หรือลาบปลาดุกจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนมากินลาบเต้าหู้แคลอรีต่ำ ๆ กันเถอะ นอกจากใส่เต้าหู้แล้วยังใส่เห็ดหลากชนิดลงไปด้วยนะ ชอบแซ่บมากก็ใส่พริกป่นลงไปเยอะ ๆ เพิ่มกลิ่นหอมด้วยข้าวคั่วเสียหน่อย คลุกเคล้าให้เข้ากันก็พร้อมอ้ำเข้าปากแล้วค่ะ อ้อ… ลืมบอก ลาบเต้าหู้เหมาะสำหรับสาว ๆ ไดเอตด้วยนะคะ แคลอรีต่ำเว่อร์ ถ้าได้กินกับผักสดยิ่งฟินเลยจ้า ส่วนผสม ลาบเต้าหู้เจ
เต้าหู้ 1 ก้อน
เห็ดนางฟ้า 1 ถ้วย
เห็ดหูหนูดำ 1 ถ้วย
ซีอิ๊วขาวเจ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
พริกป่น 2 ช้อนชา
ผักชีฝรั่งซอย 1/4 ถ้วย
ใบสะระแหน่ 1/4 ถ้วย
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำลาบเต้าหู้เจ
1. นำเต้าหู้ลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำแล้วยีให้พอแหลก
2. หั่นเห็ดนางฟ้าและเห็ดหูหนูดำเป็นเส้น ๆ แล้วนำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม ตักใส่อ่างผสม เตรียมไว้
3. ใส่เต้าหู้ที่ยีไว้ลงไปผสมกับเห็ดปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเจ น้ำมะนาว น้ำตาลทราย และพริกป่นเคล้าผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4. ใส่ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่ และข้าวคั่วลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
5. ตักใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาบเต้าหู้เจ อาหารเจรสจัดจ้านแคลอรีต่ำ
2. หลนเต้าหู้ยี้เจ
ใครว่าเมนูเต้าหู้จะมีแต่เมนูจืด ๆ เท่านั้น คออาหารไทยอย่างเราก็ต้องนี่เลย จับเต้าหู้มาทำหลนอร่อย ๆ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ เราขอแนะนำหลนเต้าหู้ยี้เจสูตรจากคุณเนินน้ำ เมนูเครื่องจิ้ม เสิร์ฟคู่กับผักสด อิ่มโปรตีนเน้น ๆ และได้บุญอีกด้วยนะคะ ส่วนผสม หลนเต้าหู้ยี้เจ
เนื้อเต้าหู้ยี้แดง 1/2 ก้อน
น้ำเต้าหู้ยี้แดง 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 1+1/4 ถ้วย
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
เต้าหู้ขาวหั่นสี่เหลี่ยม 1/2 แผ่น
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
น้ำมะขามเปียก
พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด
ผักสดต่าง ๆ ตามชอบ
วิธีทำหลนเต้าหู้ยี้เจ
1. บดเนื้อเต้าหู้ยี้กับน้ำเต้าหู้ยี้ให้เข้ากันจนละเอียด
2. ใส่กะทิลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ตะไคร้ซอย ส่วนผสมเต้าหู้ยี้ที่บดไว้และเต้าหู้ขาวคนผสมให้เข้ากัน
3. ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมะขามเปียกคนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
4. ใส่พริกชี้ฟ้าคนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสดตามชอบ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หลนเต้าหู้ยี้เจ อาหารเจรสเด็ด หอมอร่อยแบบไทย ๆ
3. เต้าหู้อบวุ้นเส้น
ถ้าเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นมีแคลอรีและราคาสูงเกินไป ก็ลองหันมาทำเมนูเต้าหู้อบวุ้นเส้นสูตรนี้จากคุณเนินน้ำ ดูสิคะ เซฟเงินแถมยังไม่อ้วนมากด้วย ส่วนผสมคล้ายเมนูอบวุ้นเส้นทั่วไป เพียงแต่เปลี่ยนจากกุ้งสดเป็นเต้าหู้และเห็ดหอม อบเสร็จควันหอมฉุยเลยล่ะ เพื่อน ๆ ได้กลิ่นกันไหมคะ ส่วนผสม เต้าหู้กับเห็ดหอมอบวุ้นเส้นเจ
วุ้นเส้น (แช่น้ำหั่นเป็นท่อนยาว) 2 ถ้วย
ซอสหอยนางรมเจ 2 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรสเห็ดหอม 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้ 1 แผ่น (หั่นทแยงมุมเป็นชิ้นสามเหลี่ยมจำนวน 4 ชิ้น)
เห็ดหอมแห้ง (แช่น้ำจนนิ่ม) 2 ดอก
ขิงแก่ (หั่นเป็นแว่นบุบหยาบ) 3 แว่น
พริกหอม 1 ช้อนชา
พริกไทยเม็ด (บุบหยาบ) 10 เม็ด
รากขึ้นฉ่าย 2 ราก
ขึ้นฉ่าย (หั่นท่อน) 2 ต้น (แบ่งไว้อบกับโรยหน้า)
วิธีทำเต้าหู้กับเห็ดหอมอบวุ้นเส้นเจ
1. คลุกเคล้าวุ้นเส้นกับซอสหอยนางรมเจ ผงปรุงรสเห็ดหอม น้ำตาลทราย พริกไทย ซีอิ๊วดำ น้ำมันงา และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน พักไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในหม้อนำขึ้นตั้งไฟปานกลางพอเริ่มร้อน ใส่เต้าหู้ลงจี่ให้ร้อนทั่ว จากนั้นใส่เห็ดหอมลงไปผัดให้หอม
3. ใส่ขิงแก่ พริกหอม พริกไทยเม็ด และรากขึ้นฉ่ายลงไปผัด
4. สุดท้ายใส่ส่วนผสมวุ้นเส้นลงไป
5. ปิดฝา อบด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อนประมาณ 5 นาทีจนวุ้นเส้นสุกนิ่ม
6. เปิดฝาหม้อ ใส่ขึ้นฉ่ายลงไป เคล้าส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ปิดฝาแล้วอบต่ออีก 2 นาที
7. ตักเต้าหู้กับเห็ดหอมอบวุ้นเส้นเจใส่จาน โรยหน้าด้วยขึ้นฉ่าย พร้อมเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าหู้กับเห็ดหอมอบวุ้นเส้นเจ เมนูเจหอมอร่อย
4. เต้าหู้ทรงเครื่อง
เต้าหู้ทรงเครื่อง อีกหนึ่งเมนูอร่อยจากเต้าหู้อันดับต้น ๆ ที่คนมักจะนึกถึง เหมาะสำหรับคนที่ชอบเต้าหู้แบบนิ่ม ๆ ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมาก อัดแน่นไปด้วยเครื่องมากมาย รสชาติกลมกล่อม แถมหน้าตาน่ากินมาก ๆ เป็นสูตรมาจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม อะไรจะน่ากินขนาดนี้เนี่ย ส่วนผสม เต้าหู้ทรงเครื่อง
วิธีทำเต้าหู้ทรงเครื่อง
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 23 สูตรอาหารสุดง่าย อร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ
5. ข้าวเกรียบปากหม้อไส้เต้าหู้หมูสับ
ข้าวเกรียบปากหม้อที่เราเคยกินกันรับรองว่า กินกล่องเดียวรอบเอวเพิ่มเป็นนิ้วแน่ ๆ แถมยังดูเชย ๆ หน้าตาจืดชืดไม่เหมาะกับคนอินดี้อย่างเราเท่าไร เอาเป็นว่าวันนี้ขอนำเสนอข้าวเกรียบปากหม้ออัญชันไส้เต้าหู้หมูสับสูตรจากคุณเนินน้ำ แปลงร่างแป้งข้าวเกรียบปากหม้อเป็นสีม่วงจากน้ำดอกอัญชัน สอดไส้เต้าหู้หมูสับ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด แค่เห็นก็น้ำลายสอแล้วค่ะคุณขา ถ้าได้กินคงฟินไปทั้งวัน ส่วนผสม แป้งข้าวเกรียบปากหม้อ
น้ำดอกอัญชัน 1/3 ถ้วย
น้ำมะนาว
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
ส่วนผสม น้ำจิ้ม
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ซีอิ๊วดำหวาน 1/8 ถ้วย
น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/8 ถ้วย
พริกขี้หนูสดบด 1/2 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ไส้เต้าหู้หมูสับ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ 1/2 หัว
หมูสับ 100 กรัม
เต้าหู้ขาวแข็ง (หั่นเต๋า) 1 ก้อน
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา
พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย
กระเทียมเจียว
ผักชี (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำข้าวเกรียบปากหม้ออัญชันไส้เต้าหู้หมูสับ
1. ทำน้ำดอกอัญชันโดยใส่น้ำร้อนลงในดอกอัญชันแล้วกรองเอาเศษออก บีบน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อยเพื่อให้เป็นสีม่วงคราม
2. ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังลงอ่างผสม ค่อย ๆ เทน้ำเปล่าและน้ำดอกอัญชันลงไปคนผสมให้เข้ากันดี
3. ทำน้ำจิ้มโดยเคี่ยวน้ำตาลทรายกับซีอิ๊วดำหวาน น้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำเปล่าเข้าด้วยกันในหม้อจนละลาย ปิดไฟ พักไว้พออุ่น ใส่พริกขี้หนูและกระเทียมลงไปคนผสมให้เข้ากัน
4. ทำไส้โดยใส่น้ำมันพืชลงในกระทะนำขึ้นตั้งไฟกลาง ใส่กระเทียมและหอมใหญ่ลงผัดพอหอม
5. ใส่หมูสับลงผัดให้สุก
6. ตามด้วยเต้าหู้ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทยดำ และน้ำตาลทรายลงผัดให้ทั่ว สุดท้ายใส่ต้นหอมลงผัดให้สุก ตักใส่ชาม เตรียมไว้
7. เตรียมหม้อคอคอดใส่น้ำเปล่าลงไป 2/3 ของหม้อ ขึงผ้าโทเร มัดด้วยยางให้แน่น และดึงให้ตึง เจาะรูริมผ้าเล็กน้อยพอให้ไอน้ำออกได้แล้วยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง ปิดฝาครอบ ต้มจนน้ำเดือด
8. ตักส่วนผสมแป้งละเลงลงบนปากหม้อเป็นแผ่นบาง ๆ ปิดฝาครอบไว้นานประมาณ 10 วินาที
9. เปิดฝาตักส่วนผสมไส้ใส่ลงไปแล้วใช้พายยางจุ่มน้ำปาดแป้งขึ้นมาหุ้มไส้ ตักใส่จานที่มีน้ำมันเล็กน้อย จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว ตกแต่งด้วยผักชี เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวเกรียบปากหม้ออัญชันไส้เต้าหู้หมูสับ แป้งเหนียวนุ่ม สีสันสดใส
6. ราดหน้าเต้าหู้น้ำแดง
เอาใจคนที่กำลังมองหหาสูตรอาหารมังสวิรัติ ด้วยเมนูราดหน้าเต้าหู้น้ำแดงสูตรจากนิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้ใช้เต้าหู้แทนเนื้อสัตว์ ใส่สารพัดเห็ดลงไปอีกด้วย เพิ่มสีสันจากมะเขือเทศและขึ้นฉ่าย แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากผงกะหรี่อีกด้วย ลองทำให้คนพิเศษกินดูสิคะรับรองต้องติดใจแน่นอน แถมยังได้สุขภาพไปเต็ม ๆ ส่วนผสม ราดหน้าเต้าหู้น้ำแดง
ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 150 กรัม
ซีอิ๊วดำหวาน 1 ช้อนชา
เต้าหู้ถั่วเหลือง (หั่นชิ้น) 1 หลอด
น้ำมันพืช (สำหรับจี่เต้าหู้)
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
หอมหัวใหญ่ (หั่นเต๋า) 2 ช้อนโต๊ะ
ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
มะเขือเทศ (หั่นเต๋า) 2 ช้อนโต๊ะ
เห็ดฟาง 3 ดอก
เห็ดชิเมจิ 30 กรัม
น้ำซุปผัก 3/4 ถ้วยตวง
ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 1 ช้อนชา
แป้งมันสำปะหลังผสมน้ำเปล่าเล็กน้อย
ขึ้นฉ่าย (หั่นท่อนสั้น) 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำราดหน้าเต้าหู้น้ำแดง
1. คลุกเคล้าซีอิ๊วดำหวานกับก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ให้เข้ากัน ใส่ลงผัดในกระทะพอหอม ตักใส่จานเตรียมไว้
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยพอร้อน นำเต้าหู้ถั่วเหลืองลงจี่จนสุกเหลืองตักขึ้น เติมน้ำมันพืชอีก 1 ช้อนโต๊ะ ใส่กระเทียม ลงผัดพอหอม ใส่หอมหัวใหญ่ลงผัดจนสุก ใส่ผงกะหรี่ลงผัดพอหอม
3. ใส่มะเขือเทศ เห็ดฟาง และเห็ดชิเมจิลงผัดพอสุก เติมน้ำซุปผัก ปรุงรสด้วยซอสเห็ดหอม น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส พอเดือดเติมแป้งมันสำปะหลังคนจนสุกข้นเล็กน้อย โรยขึ้นฉ่ายลงไปคลุกเคล้าพอเข้ากัน ตักราดบนก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ที่เตรียมไว้ จัดเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ราดหน้าเต้าหู้น้ำแดง เมนูมังสวิรัติจากเต้าหู้หน้าตาดีชวนหิว
เมนูเต้าหู้ 6 สูตรข้างต้นน่าลองทำเหมือนกันนะคะ ถ้าหากวันไหนไม่อยากกินเนื้อสัตว์ก็กินเต้าหู้นี่แหละอุดมด้วยโปรตีน ราคาไม่แพง ทำกินทั้งครอบครัวก็ได้ หรือทำกินเองก็เจิด รับรองสุขภาพดีแน่ ๆ ค่ะ
หน้าที่เข้าชม | 193,649 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 177,571 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มี.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |