ข้าวกล้องหอมอ่อนหวาน เป็นข้าวสายพันธ์ใหม่
มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถทนอยู๋ใต้น้ำได้นาน 2-3 สัปดาห์ และฟื้นตัวหลังน้ำลดได้ดี ลำต้นแข็ง ไม่หักล้มง่าย ไม่ไวต่อช่วงแสง สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี อายุเก็บเกี่ยว 120 วัน ผลผลิต หุงต้มคล้ายพันธ์ุข้าวดอกมะลิ 105 และมีกลิ่นหอม
ลักษณะทั่วไปของข้าวกล้อง
ข้าวกล้องอ่อนหวาน คือ เมล็ดข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือขัดสีเพียงครั้งเดียว มีสีน้ำตาลอ่อน เป็นพันธ์ุผสมระหว่าง ลูกผสมของข้าวทนน้ำท่วมกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 มีคุณประโยชน์จากสารอาหารต่างๆ มากกว่าข้าวขาวธรรมดา เพราะผ่านการกะเทาะเปลือกออกเพียงครั้งเดียวทำให้เยื่อหุ้มเมล็ดข้าวยังอยู่ ซึ่งเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ รวมทั้งกากใยอาหารที่มีมากกว่าในข้าวขาวถึง 3 เท่าที่เดียวในปริมาณเท่ากัน
ประโยชน์และสรรพคุณของข้าวกล้องอ่อนหวาน
ข้าวกล้องอ่อนหวาน มีคุณค่าทางอาหารที่สูงมาก ทำให้ส่วนต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้าวกล้องอ่อนหวาน แป้งต่ำ น้ำตาลน้อยกว่าข้าวทั่วไปถึง 30% มีธาตุเหล็ก แคลเซียม โฟลิค สูงกว่าข้าวทั่วไปถึง 3 เท่า
สารอาหารเพิ่มเติม
- มีวิตามินบี ป้องกันอาการอ่อนเพลียของกล้ามเนื้อ แขน-ขาไม่มีแรง บำรุงสมอง และช่วยให้เจริญอาหาร
- วิตามินบี 1 ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา
- วิตามินบี 2 ช่วยป้องกันโรคปากนกกระจอก
- วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน ช่วยป้องกันโรคผิวหนัง และเส้นประสาท
- แคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ทำให้ไม่เป็นตะคริวได้ง่าย
- ฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงเจริญเติบโตได้ดี
- เหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
- โปรตีน ช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
- ไขมัน ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เพราะเป็นไขมันดีจึงไม่มีคอเลสเตอรอล
- คาร์โบไฮเดรต ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย
- ทองแดง ช่วยในการสร้างเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง
- โพแทสเซียม ช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ และควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย
- ซีลีเนียม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่
- กากใยอาหาร ช่วยให้ท้องไม่ผูก และป้องกัน โรคมะเร็ง ในลำไส้
นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่กำลังไดเอตอยู่ เนื่องจากเปลือกที่มีเยื่อบางๆ หุ้มติดกับเนื้อข้าวอยู่จะเหนียว แตกตัวยาก ซึ่งเยื่อนี้ไม่สามารถย่อยได้ในร่างกายเราทำให้ไม่ได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยน้อยกว่าในข้าวขาว ทำให้อินซูลินที่หลั่งออกมาน้อย ร่างกายก็เลยใช้พลังงานจากไขมัน ซึ่งต่างจากข้าวขาวธรรมดาที่ปกติก็มีพื้นที่สัมผัสกับน้ำย่อยในร่างกายเยอะอยู่แล้ว พอรับประทานข้าวขาวเข้าไป ก็ยิ่งสัมผัสกับน้ำย่อยมากขึ้นทำให้ได้รับน้ำตาลกลูโคสมาก เมื่ออินซูลินหลั่งออกมาก็จะนำกลูโคสเข้าไปทำให้ร่างกายหยุดใช้พลังงานจากไขมันแล้วหันมาใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตแทนนั่นเอง
วิธีการเลือกข้าวกล้องและการเก็บรักษา
- ถุงปิดสนิท ไม่มีรอยแหว่งตรงปลายเมล็ดข้าว
- มีสีขุ่นกว่าข้าวขาว และหากมีสีเขียวอ่อนๆ ติดอยู่ แสดงว่าใหม่สดเพิ่งเก็บเกี่ยวมาใหม่ๆ ไม่ถูกขัดสีทิ้งไป
- ข้าวต้องอบหรือตากแห้งสนิท ไม่มีกลิ่นอับชื้น หรือขึ้นรา
- บรรจุในถุงสะอาด ระบุสถานที่ วันเดือนปีที่ผลิต
- ควรเก็บในที่สะอาด มิดชิด ไม่มีมอดหรือแมลงสาบ
- ซื้อปริมาณที่รับประทานหมดภายใน 2 – 3 สัปดาห์ เนื่องจากอายุจะสั้นกว่าข้าวขาว ซึ่งเกิดความชื้นง่ายทำให้เกิดเชือราได้
วิธีการหุงข้าวกล้อง
- เก็บสิ่งสกปรกที่แปลกปลอมออก ซาวน้ำเพียงครั้งเดียว
- ใส่น้ำปริมาณมากกว่าการหุงข้าวขาว เพราะใช้เวลาหุงนานเนื่องจากมีเยื่อหุ้มเมล็ดทำให้ดูดซึมน้ำได้ยากกว่า
- ควรแช่ข้าวกล้องก่อนหุงประมาณ 5 – 10 นาที ข้าวจะหอมนุ่มน่ารับประทาน
- ควรรับประทานขณะอุ่นข้าวจะนุ่มกว่ารอให้เย็น และควรรับประทานให้หมดในมื้อนั้นๆ เพราะจะบูดได้ง่ายกว่าข้าวขาว
สำหรับข้าวกล้องถึงแม้ว่าจะอร่อยนุ่มลิ้นเท่าข้าวขาวไม่ได้ แต่คุณประโยชน์นั้นเหลือล้นจริงๆ ซึ่งหากไม่คุ้นเคยกับการรับประทานข้าวกล้องก็ลองรับประทานแบบผสมกับข้าวชนิดอื่นดูก่อน จนกว่าจะชินจึงค่อยเปลี่ยนมารับประทานข้าวกล้องล้วนๆ
หน้าที่เข้าชม | 193,649 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 177,571 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มี.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |