เทศกาลกินเจนอกจากทำอาหารเจไว้กินเป็นมื้อหลักแล้ว อย่าลืมจัดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสูตรเจไว้เสริมทัพเบา ๆ ระหว่างวันด้วย แต่ละแก้วเด็ด ๆ ทั้งนั้น พี่แนะนำเลย
อาหารเจเมนูต้ม อาหารเจเมนูเส้น อาหารเจรสแซ่บ และเมนูของทอดเจจัดพร้อมเสิร์ฟทุกมื้อหมุนเวียนตลอดช่วงเทศกาลกินเจแล้ว แต่ยังขาดเมนูเครื่องดื่มเอาไว้ดื่มตบท้ายหลังมื้ออาหาร หรือเอาไว้ดื่มระหว่างวันยามท้องว่าง 5 สูตรเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ แต่ละเมนูแคลอรีต่ำ เลือกทำได้ตามชอบ เอาไว้ดื่มเพลิน ๆ ช่วงกินเจ หรือนอกช่วงกินเจอยากดื่มก็ได้เหมือนกันจ้า
1. น้ำเต้าหู้
เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพเมนูแรกที่ต้องนึกถึงคงหนีไม่พ้นการทำน้ำเต้าหู้ ใครเคยลองทำน้ำเต้าหู้แล้วรสชาติไม่ถูกจริตบ้างคะ ? มีทั้งกลิ่นเหม็นเขียวและออกขมด้วยซ้ำ ต้องมาดูวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรจากRinS CookBook แบบโฮมเมดไว้กินเอง แล้วจะพบว่า น้ำเต้าหู้ทำอร่อยได้ง่าย ๆ สูตรนี้พิเศษที่มีการใส่ถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันและความเข้มข้น ลองทำดื่มนะคะ ได้สุขภาพอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้
• ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
• ถั่วลิสง 1 ถ้วย
• อัลมอนด์ 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3)
• น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวาน)
วิธีทำน้ำเต้าหู้
• 1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
• 2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
• 3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
• 4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
• 5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน
• ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำน้ำเต้าหู้ โฮมเมดสูตรเข้มข้น ทำดื่มเองดีกว่าไม่เสียอารมณ์
2. น้ำเต้าหู้งาดำ
มาเพิ่มประโยชน์ให้กับน้ำเต้าหู้เพียว ๆ ด้วยงาดำลงไปหน่อยดีกว่า สีสันจะได้สวยงามและมีกลิ่นหอมอีกด้วย ทำง่าย ๆ เหมือนการทำน้ำเต้าหู้ทั่ว ๆ ไปแต่ใส่งาดำลงไปเพิ่มเท่านั้น สำหรับใครที่อยากใส่เครื่องอื่น ๆ เช่น เม็ดแมงลัก ถั่วแดงต้ม ก็จัดไปได้เลย อิ่มสบายท้องชัวร์
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้งาดำ
• ถั่วเหลือง 500 กรัม
• งาดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำอุ่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำน้ำเต้าหู้งาดำ
• 1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม แล้วนำไปแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
• 2. ล้างงาดำให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วจนมีกลิ่นหอม
• 3. ใส่ถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยงาดำคั่ว และน้ำอุ่นจนท่วม ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ
• 4. เทน้ำเต้าหู้งาดำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ คนผสมให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม หรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่ม
3. น้ำเต้าหู้แครอท
ลองทำมาหมดแล้วทั้งน้ำเต้าหู้ และน้ำเต้าหู้งาดำ มื้อต่อไปขอเป็นน้ำเต้าหู้แครอทบ้างดีกว่า อีกหนึ่งเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ สูตรนี้เพิ่มน้ำแครอท และกลิ่นหอมของใบเตยเข้าไป ถ้าใครไม่อยากดื่มรสต้นตำรับก็ไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายลงไปก็ได้นะคะ อยากให้ลองทำกันค่ะ
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้แครอท
• ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
• น้ำเปล่า 3 ลิตร
• น้ำแครอทคั้นเข้มข้น 1 ถ้วย
• ใบเตยมัดเป็นปม
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำน้ำเต้าหู้แครอท
• 1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
• 2. ใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า ปั่นจนละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
• 3. ใส่น้ำเต้าหู้ที่ได้ผสมกับน้ำแครอท คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบเตย ต้มจนเดือด (หมั่นคนตลอดเวลาไม่ให้ไหม้)
• 4. พอน้ำเต้าหู้เดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ตักใบเตยออก ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
4. น้ำลูกเดือย
ทุกคนก็รู้ว่าลูกเดือยมีคุณค่ามากมายทั้งบำรุงตับ ป้องกันมะเร็ง และอื่น ๆ จนทำให้คนจีนยกให้ลูกเดือยเป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยความที่ลูกเดือยมีคาร์โบไฮเดรตสูง ไม่มีคอเลสเตอรอล ทำให้คนที่อยากลดน้ำหนักก็หันมากินลูกเดือยต้ม หรือถ้าหากไม่อยากเคี้ยวก็ทำเป็นน้ำลูกเดือยกันเลยค่ะ ดื่มง่ายลื่นคอ จับธัญพืชที่ชอบลงไปใส่ด้วยก็เก๋ดีเหมือนกัน
ส่วนผสม น้ำลูกเดือย
• ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม
• ธัญพืชตามชอบ เช่น งาขาว งาดำ เม็ดบัว ถั่วอัลมอนด์
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย (เพิ่ม-ลดได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ)
• น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำลูกเดือย
• 1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
• 2. ใส่ลูกเดือย ธัญพืช และน้ำเปล่า 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันเป็นน้ำ จากนั้นนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้ (หรือถ้าใครชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องกรองก็ได้)
• 3. เทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่ลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามต้องการ) คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลายแล้วชิมรสตามชอบ รอจนส่วนผสมเดือดแล้วปิดไฟ (หรือนำไปต้มในหม้อหุงข้าวก็ได้ตามสะดวก) จากนั้นวางพักไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
5. น้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
ถ้าเอ่ยชื่อน้ำข้าวกล้องงอกบางคนอาจส่ายหน้าเพราะรสชาติจืดชืดไม่อร่อย แต่ถ้าได้เพิ่มมะม่วงเข้าไปกลายเป็นน้ำมะม่วงข้าวกล้องงอกสูตรจากนิตยสาร Foodstylist เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ รสชาติจะอร่อยหอมหวานมากยิ่งขึ้น ถ้าอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรต้องลองทำ
ส่วนผสม น้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
• ข้าวกล้องขาว (ข้าวใหม่ดอกมะลิ 105 หรือปทุมธานี 1) 500 กรัม
• น้ำสะอาด
• ใบเตย 2-3 ใบ
• มะม่วงสุกเลือกหวาน ๆ ปั่น 1 ลูก
• สะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำน้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
• 1. นำข้าวกล้องมาล้างทำความสะอาด เติมน้ำให้ท่วมข้าว แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง เทน้ำออกแล้วนำไปห่อด้วยผ้าขาวบาง ใส่กล่องทิ้งไว้อีกประมาณ 10-24 ชั่วโมง เมล็ดข้าวจะงอกออกมาเป็นตุ่มเล็ก ๆ (ได้ข้าวกล้องงอก) ที่มีสารกาบา จึงนำมาผสมกับน้ำประมาณ 1 ลิตร ปั่นให้ละเอียด
• 2. นำไปกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นจึงนำไปต้มกับใบเตยจนเดือด พักไว้ให้อุ่น ๆ นำมาผสมกับน้ำมะม่วงในปริมาณตามต้องการดื่มทันที ถ้าต้องการเพิ่มความหวานสามารถเติมน้ำเชื่อมได้ตามชอบ
หน้าที่เข้าชม | 193,649 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 177,571 ครั้ง |
เปิดร้าน | 24 มี.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 15 ส.ค. 2568 |